สมองเป็นศูนย์บัญชาการของร่างกาย ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อทุกประเภท ประสานการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย รวมทั้งการทำงานในระดับสูงของระบบประสาท เช่น ความจำ ความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ การคำนวณ การเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ การใช้ภาษา เป็นต้น แม้ว่าสมองมีน้ำหนักเพียงแค่ 2-3% ของน้ำหนักตัว แต่กลับต้องการเลือดมากถึง 20% ของร่างกายมาหล่อเลี้ยง หากสมองขาดเลือดเพียงแค่ 5 นาที ก็จะถูกทำลายอย่างถาวรและสูญเสียสมรรถภาพการทำงานอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น เมื่อหลอดเลือดสมองเสื่อมลงจากสาเหตุต่างๆ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น ไขมันในเลือดสูง เลือดมีความหนืดมากเกินไป เบาหวานหรือความดันโลหิตสูง เป็นต้น จะทำให้หลอดเลือดสมองแข็งตัว ตีบ ตันหรือแตก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการตั้งแต่ขี้หลงขี้ลืม ความจำเสื่อม จนถึงอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือเสียชีวิตฉับพลันก็ได้
ความเสื่อมถอยของเซลล์สมอง
เมื่อหลอดเลือดสมองแข็งตัวหรือตีบลง เลือดจึงไปหล่อเลี้ยงเซลล์สมองไม่เพียงพอ ทำให้เซลล์สมองเสื่อมถอยซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความจำ สติปัญญา ความคิดความอ่านและการตัดสินใจ ทำให้เกิดอาการขาดสมาธิ ขี้หลงขี้ลืม สูญเสียความจำระยะสั้น ความคิดไม่ต่อเนื่อง คิดเลขช้าลง รู้สึกเนือยๆ สมองตื้อๆ หน้ามืด ตาลาย หูอื้อ ฯลฯ ความเสื่อมถอยของเซลล์สมองเป็นเสมือนสัญญาณเตือนบ่งบอกอาการให้เรารู้ว่า สภาพหลอดเลือดของสมองกำลังเสื่อมลง หากไม่มีการบำบัดอย่างทันท่วงที ปัญหาหลอดเลือดสมองตีบ ตัน แตก ก็อาจตามมาทีหลัง
ตีบ – เมื่อหลอดเลือดสมองแข็งตัวและตีบลงมากๆ หากมีลิ่มเลือดมาอุดตันหลอดเลือด ก็จะทำให้เกิดภาวะสมองขาดเลือด หลอดเลือดสมองตีบพบบ่อยในผู้สูงอายุ เนื่องจากบุคคลกลุ่มนี้ มักจะมีภาวะเลือดแดงแข็งตัวจากไขมันเกาะตามผนังหลอดเลือด อีกทั้งยังเป็นโรคแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวานหรือไขมันในเลือดสูง สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน จะมีโอกาสเกิดภาวะนี้ได้ก่อนวัยอันควร ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มักมีภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวเร็วกว่าปกติ นอกจากนี้ผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นอัมพาตก็จะมีความเสี่ยงต่อโรคนี้มากขึ้น
ตัน – ลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในหลอดเลือดส่วนอื่นของร่างกาย ซึ่งมักจะมาจากลิ่มเลือดที่หัวใจ หลุดลอยตามกระแสเลือดและมาอุดตันหลอดเลือดสมอง ทำให้เซลล์สมองตายเพราะขาดเลือด หลอดเลือดสมองอุดตัน จึงมักจะพบในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
แตก – หลอดเลือดสมองที่เปราะบางแตกออกทำให้เนื้อสมองโดยรอบตาย ซึ่งเป็นอันตรายที่ร้ายแรง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ในเวลาอันรวดเร็ว หลอดเลือดสมองแตกมักเกิดจากโรคความดันโลหิตสูง
7 สัญญาณเตือนก่อนเป็นเส้นเลือดสมองแตก
- ไม่มีแรงหรือชาอย่างเฉียบพลันที่ใบหน้า แขนหรือขาซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย มือหยิบของแล้วร่วงตก อาการมักเกิดขึ้นชั่วขณะและหายเองได้ภายใน 24 ชม.
- ตามัวหรือมองไม่เห็นอย่างเฉียบพลัน โดยเฉพาะถ้าเป็นกับตาข้างเดียว
- อยู่ๆ ลิ้นแข็งหรือชา ทำให้พูดไม่ชัดหรือพูดลำบาก แต่รู้ตัวดีและสามารถกลับสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว
- วิงเวียนศีรษะบ่อย บางทีเป็นลมล้มลง แต่สามารถรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว
- ความจำเสื่อมลงอย่างเห็นได้ชัด
- นึกอะไรช้าลง สับสน ขาดสมาธิ สมรรถภาพการทำงานลดลงอย่างไร้เหตุผล
- อยู่ๆ ปวดศีรษะอย่างรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
วิธีการบำบัดของการแพทย์จีน
การแพทย์จีนได้จัดโรคหลอดเลือดสมองให้อยู่ในกลุ่มโรคที่เกิดจาก ภาวะหยาง (ความร้อน) ในตับมีมากเกินไป จนลอยตัวขึ้นไปกระทบที่ศีรษะ ร่วมกับภาวะเลือดมีความหนืดมากเกินไปจากพลังชี่ของไตพร่องลง การแพทย์จีนนิยมใช้วิธีบำบัดแบบองค์รวมดังนี้
- ทำความสะอาดหลอดเลือด สลายลิ่มเลือดและไขมัน ทำให้หลอดเลือดโล่งสะอาด เพื่อบำบัดโรคต่างๆ ที่เป็นต้นเหตุของโรคหลอดเลือดสมอง เช่น ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจตีบ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น
- บำรุงไต เพื่อส่งเสริมพลังชี่ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น สมองจึงได้รับออกซิเจนและน้ำตาลกลูโคส ที่เป็นสารจำเป็นต่อการใช้พลังงานของสมองได้อย่างเพียงพอ
อาการขี้หลงขี้ลืม วิงเวียนศีรษะ ความจำไม่ดี สมาธิสั้น หูอื้อ ตาลาย จากเซลล์สมองเสื่อมถอยหรืออาการแขนขาอ่อนแรง ลิ้นชา พูดไม่ชัด ตามัว กลืนอาหารลำบาก เดินเซเหมือนคนเมาเหล้า หรืออาการอื่นๆ ที่เกิดจากโรคหลอดเลือดสมอง จะค่อยๆ ทุเลาลงหรืออาจหายไปในที่สุด