ท่านเคยมีอาการชามือชาเท้า ชาตามแขนขาบ้างไหม? หลายๆ ท่านคงเคยเกิดอาการนี้ แต่อาจมองข้ามไปว่าไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงจึงไม่ได้ใส่ใจ แต่รู้หรือไม่ว่า อาการชาที่เดี๋ยวเป็นเดี๋ยวหายนั้น เป็นเสมือนสัญญาณเตือนว่าระบบในร่างกายเริ่มมีปัญหาบางอย่าง ที่ควรดูแลแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะเกิดอาการที่ร้ายแรง
ผู้ที่มีอาการชาจะรู้สึกยิบๆ คล้ายถูกเข็มทิ่มเบาๆ หรือเหมือนไฟฟ้าช็อตด้วยกระแสอ่อนๆ ทำให้ผิวหนังบริเวณที่ชาจะไร้ความรู้สึก ซึ่งอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกส่วนในร่างกาย ไม่ว่านิ้วมือ เท้า แขน ขา อาจเป็นเพียงชั่วครู่แล้วหายไปหรือเป็นตลอด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย เคร่งเครียด ต้องนั่งทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง เลือดข้น เลือดหนืด โรคไขมันในเลือดสูง ผู้ป่วยเป็นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไตก็จะเกิดอาการนี้ได้มากขึ้นและบ่อยขึ้น
สาเหตุในทัศนะการแพทย์จีน
การแพทย์จีนได้จัดอาการชามือชาเท้า ชาตามแขนขา ให้อยู่ในกลุ่มของภาวะเลือดคั่งอันเกิดจากเลือดค่อยๆ ไหลเวียนช้าลง เนื่องจากเลือดมีความหนืดมากผิดปกติจนจับตัวเป็นลิ่ม ไปคั่งค้างอยู่ตามส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆ ได้รับการหล่อเลี้ยงจากเลือดไม่เพียงพอ การไหลเวียนของเลือดติดขัด ยังส่งผลให้พิษและของเสียสะสมคั่งค้างอยู่ในร่างกายมากขึ้นและนานขึ้นเรื่อยๆ
การแพทย์จีนจึงนิยมใช้ยาสมุนไพรจีนในรูปแบบของสารสกัด เพื่อให้การออกฤทธิ์ของตัวยามีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ดังนี้
- เพื่อทำความสะอาดและทะลวงเส้นลมปราณและเส้นเลือด กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ขับพิษและของเสียออกจากร่างกาย ลดความหนืดของเลือด
- ยับยั้งการก่อตัวของลิ่มเลือด เลือดจึงไหลเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายได้มากขึ้น
อาการชาจึงค่อยๆ ทุเลาลงหรืออาจหายไปในที่สุด ทั้งยังส่งเสริมให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด