พฤติกรรมนั่งจ้องจอคอมนานๆ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในทุกวันนี้ ซึ่งก็ทำให้เสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมามากมาย เช่น สายตาเสีย ปวดคอบ่าไหล่ กระดูกคอเสื่อม ออฟฟิศซินโดรม ฯลฯ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมสุขภาพ ทางเอินเวย์ก็ขออาสานำข้อมูลระดับจอคอมและระยะมองที่เหมาะสม ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มาให้ชมกันในบทความนี้เองค่ะ
ระดับจอคอมที่เหมาะสม
จอคอมหากอยู่สูงหรือต่ำจนเกินไป ไม่พอดีกับระดับสายตา ก็จะทำให้ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่มากกว่าปกติเพื่อก้มหรือเงยให้มองเห็นได้ถนัด เมื่อนานไปจึงส่งผลให้กล้ามเนื้อเหล่านี้เกิดอาการอ่อนล้า ตึง และปวด
ซึ่งวิธีแก้นั้นก็จะแนะนำให้ปรับระดับจอคอมให้เหมาะสม โดยให้ขอบบนของจอคอมอยู่ตรงกับระดับสายตาเมื่อมองตรง หรืออยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อย โดยจะส่งผลให้บริเวณตรงกลางของจอคอมอยู่ในระยะ 15-20 องศา นับลงมาจากระดับสายตาเมื่อมองตรง
ในอีกแง่หนึ่ง จอคอมที่อยู่ในตำแหน่งเยื้องซ้ายหรือขวาจนเกินพอดี ก็จะทำให้ต้องใช้กล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่มากกว่าปกติเพื่อหันมอง เมื่อนานไปจึงส่งผลให้เกิดอาการอ่อนล้า ตึง และปวดได้ด้วยเช่นกัน ปัญหานี้จะแนะนำให้แก้ด้วยการตั้งจอคอมไม่ให้เยื้องไปทางซ้ายหรือขวาเกินกว่า 35 อาศา นับจากระยะมองตรงของผู้ใช้ (ดีสุดคือตั้งตรงหน้าผู้ใช้)
ข้อแนะนำเหล่านี้มีที่มาจาก สำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ซึ่งมีพื้นฐานมากจากงานวิจัยในด้านสุขภาพและอาชีวอนามัยหลายชิ้น
ระยะมองจอที่เหมาะสม
จอคอมหากอยู่ไกลเกินไป ก็จะทำให้ต้องเพ่งสายตาเพื่อมองตัวหนังสือ และอาจทำให้ต้องชะเง้อหรือนั่งโน้มตัวไปข้างหน้า เมื่อนานไปจึงอาจส่งผลเสียต่อสายตาและกล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่และหลัง
ในทางกลับกัน จอคอมหากอยู่ใกล้เกินไป ก็จะทำให้กล้ามเนื้อตาต้องทำงานหนักในการโฟกัสภาพ และยังอาจนำไปสู่ท่านั่งที่ไม่เหมาะสม เมื่อนานไปจึงอาจส่งผลเสียต่อสายตาและกล้ามเนื้อบริเวณคอบ่าไหล่และหลังได้ด้วยเช่นกัน
สำหรับวิธีแก้นั้น ทางสำนักงานบริหารความปลอดภัยและอาชีวอนามัย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ก็ได้แนะนำให้ตั้งจอคอมให้มีระยะห่างจากผู้ใช้ระหว่าง 50-100 เซนติเมตร และพยายามดูแลท่านั่งให้เหมาะสม (ศีรษะและไหล่ตั้งตรง หลังพิงพนักเก้าอี้) ทั้งนี้ ผู้ที่ใช้หน้าจอขนาดเล็กก็อาจจะต้องซูมเพิ่ม เพื่อให้มองตัวหนังสือได้ชัดโดยที่ไม่ต้องเพ่งสายตาและไม่ต้องนั่งชะเง้อหรือโน้มตัว
ข้อแนะนำอื่นๆ ในการใช้คอม
นอกจากประเด็นคำถามที่ว่า จอคอมควรอยู่ระดับไหนและควรอยู่ห่างจากสายตาเท่าไหร่แล้ว ก็ยังมีข้อแนะนำอื่นๆ ในการช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากการใช้คอมเพิ่มเติมอีกดังนี้
- ควรพักสายตาเป็นระยะ โดยอาจทำตามกฎ 20-20-20 ซึ่งก็คือทุกๆ 20 นาทีของการมองจอ ให้พักสายตา 20 วินาที ด้วยการหันไปมองสิ่งที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร)
- อาจพยายามจัดตารางเวลาให้มีกิจกรรมอื่นๆ คั่นสลับกับการใช้คอม เพื่อเป็นการพักสายตา
- พยายามหันมองไปทางอื่นและกะพริบตาด้วยความถี่ปกติเป็นระยะระหว่างใช้คอม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา (ผู้ที่จ้องจอคอมมักจะกะพริบตาน้อยกว่าปกติ ซึ่งจะมีส่วนทำให้ตาแห้งและล้า)
- เลี่ยงการเอียงจอคอมให้เงยขึ้นเกินกว่า 20 องศา จากมุมตั้งฉาก เพื่อไม่ให้มองเห็นตัวหนังสือลำบาก และลดปัญหาแสงสะท้อนจากจอคอม
การบำบัดอาการปวดคอบ่าไหล่ในทัศนะการแพทย์จีน
ในทัศนะการแพทย์จีน อาการปวดคอบ่าไหล่ ไม่ว่าจะเกิดจากกระดูกคอเสื่อมหรือออฟฟิศซินโดรม ก็จะสามารถดูแลบำบัดได้ด้วยวิธีธรรมชาติ ผ่านการใช้ตำรับยาสมุนไพรจีนสกัดที่มีหลักการออกฤทธิ์ดังนี้
- ทะลวงเส้นเลือดและเส้นลมปราณบริเวณคอ บ่า ไหล่ ให้โล่งสะอาด
- สลายภาวะเลือดคั่ง ช่วยให้เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ และกระดูกคอ ได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ
- ขจัดพิษลม พิษเย็น และพิษชื้น ที่สะสมอยู่ตามบริเวณคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการปวดเมื่อยต้นคอ บ่า ไหล่ และท้ายทอย
- ผลักดันการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น อาการเวียนหัวปวดหัวจึงทุเลาลง
- เสริมสร้างพลังลมปราณเพื่อลดภาวะเส้นลมปราณติดขัด
ท่านที่สนใจดูแลอาการปวดคอบ่าไหล่ตามทัศนะการแพทย์จีน ก็สามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากเอินเวย์ได้โดยตรงที่เบอร์ 02-751-4399 หรือไอดีไลน์ @enwei
จบแล้วกับประเด็นความรู้ในด้านระดับจอคอมและระยะมองที่เหมาะสม รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะมีส่วนช่วยเลี่ยงอาการปวดคอบ่าไหล่และปัญหาสายตาเสียได้ ทางเอินเวย์หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านนะคะ
เอินเวย์ ศูนย์รวมยาสมุนไพรจีนระดับพรีเมี่ยมจากประเทศจีน ซึ่งอยู่เคียงข้างสังคมไทยมานานกว่า 30 ปี ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกธรรมชาติในการดูแลสุขภาพตามศาสตร์การแพทย์จีน เพื่อให้ทุกท่านได้มีสุขภาพที่ดี