โรคความดันโลหิตต่ำก่อให้เกิดโรคแทรกซ้อนและอันตรายหลายอย่าง แต่มักจะถูกมองข้ามไป วันนี้เราจะมาวิเคราะห์เจาะลึกโรคนี้ว่าอันตรายแค่ไหน การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร…
ความดันโลหิตต่ำเป็นสาเหตุทำให้หลอดเลือดฝอยส่วนปลายในร่างกายขาดเลือดไปหล่อเลี้ยง รวมทั้งเกิดการคั่งของคาร์บอนไดออกไซด์และของเสียจากกระบวนการเมตาบอลิซึม ที่สำคัญคืออาจเกิดผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสมอง เนื่องจากขาดออกซิเจนและสารอาหารไปหล่อเลี้ยง ความสามารถในการมองเห็นและการได้ยินลดลง เป็นอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุหรือเป็นตัวเร่งอาการให้หนักขึ้น หรืออาจส่งผลให้หกล้มเนื่องจากเป็นลม อีกทั้งเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดอีกด้วย
แบบไหนถึงเข้าข่ายความดันโลหิตต่ำ
โดยทั่วไปในทางการแพทย์ ความดันโลหิตของผู้ใหญ่ที่ต่ำกว่า 90/60 มิลลิเมตรปรอท (MmHg) และความดันโลหิตของผู้สูงอายุที่ต่ำกว่า 100/70 มิลลิเมตรปรอท (MmHg) จะถูกจัดว่าเข้าข่ายความดันโลหิตต่ำ ซึ่งจะพบบ่อยในสตรีที่ร่างกายอ่อนแอ ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นความดันโลหิตต่ำ
ความดันโลหิตต่ำแบ่งออกเป็น 2 ชนิด
ชนิดเฉียบพลัน ซึ่งจะแสดงอาการหลักๆ คือ หน้ามืดและช็อกหมดสติ มักจะเกิดกับผู้ที่เป็นลมหรือหัวใจล้มเหลว
ชนิดเรื้อรัง ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภทคือ
- เป็นมาตั้งแต่กำเนิด
- การเปลี่ยนอิริยาบถ
- การใช้ยาและเจ็บป่วย
ความดันโลหิตต่ำมีอาการอย่างไร
บางรายจะมีอาการหูอื้อ ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด ตาลาย ปวดหลังและบั้นเอว มือเท้าเย็น อ่อนเพลีย สมองล้า ขี้หลงขี้ลืม ง่วงเหงาหาวนอน หน้าตาอิดโรย ขาดสมาธิ หรือรู้สึกว่าสมองถูกบีบรัด ท้องเดิน ท้องผูก มีแก๊สสะสมในลำไส้ ท้องอืดท้องเฟ้อ อาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือประจำเดือนผิดปกติ
ความดันโลหิตต่ำมีอาการอย่างไร
การแพทย์จีนได้จัดโรคความดันโลหิตต่ำ ให้อยู่ในกลุ่มโรคที่เกิดจากการพร่องลงของพลังชี่และเลือดในร่างกาย หรือที่เรียกว่าชี่พร่อง-เลือดพร่องนั่นเอง เลือดกับพลังชี่มีคุณสมบัติต่างกันคือ เลือดเป็นหยินชอบอยู่นิ่งและให้ความชุ่มชื้น ส่วนพลังชี่เป็นหยางชอบเคลื่อนไหวและให้ความอบอุ่น ซึ่งความสัมพันธ์ของเลือดกับพลังชี่ แท้ที่จริงแล้วก็คือความสัมพันธ์ของหยิน-หยางในระบบการไหลเวียนของเลือดนั่นเอง
- เลือดกับพลังชี่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน : กระบวนการเกิดและการสร้างเลือด ต้องอาศัยพลังชี่และการเคลื่อนไหวของพลังชี่ ถ้าพลังชี่สมบูรณ์เลือดก็จะสร้างขึ้นมาได้อย่างเพียงพอ ในทางกลับกัน พลังชี่ก็ต้องอาศัยเลือดไปหล่อเลี้ยงและให้ความชุ่มชื้น การไหลเวียนของเลือดจะนำพลังชี่ไปทุกๆ เซลล์ของร่างกาย ถ้าเลือดพร่องลงพลังชี่ก็จะพร่องลงตามไปด้วย ชี่พร่องและเลือดพร่องจึงมักจะเกิดขึ้นร่วมกันอยู่เสมอ
- พลังชี่ผลักดันการไหลเวียนของเลือด : เลือดเป็นหยินชอบอยู่นิ่งไม่สามารถไหลเวียนได้เอง ต้องอาศัยแรงผลักดันจากพลังชี่ จึงกล่าวได้ว่า พลังวิ่งเลือดเดิน พลังนิ่งเลือดหยุด ถ้าพลังชี่พร่องลงเลือดก็จะไหลเวียนช้าลง ทำให้ชี่และเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกายอย่างทั่วถึง ส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ อวัยวะต่างๆ จึงได้รับการหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอจนเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้
การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดโรคความดันโลหิตต่ำอย่างไร
การแพทย์จีนนิยมใช้วิธี บำรุงชี่-บำรุงเลือด เพื่อบำบัดภาวะความดันโลหิตต่ำ เมื่อชี่-เลือดในร่างกายสมบูรณ์ขึ้น ความดันโลหิตก็จะค่อยๆ กลับสู่ภาวะปกติ อาการต่างๆ ที่เกิดจากโรคความดันโลหิตต่ำ จึงทุเลาลงหรือหายไปในที่สุด