ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีได้ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกประเมินว่าโอมิครอน JN.1 กำลังปรับกลยุทธ์ด้วยการกลายพันธุ์ส่วนหนามแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน คือปรับส่วนหนามจากเดิมที่จะจับจำเพาะกับเซลล์เยื่อบุปอด ให้สามารถแพร่ลงลึกไปจับกับเซลล์เยื่อบุลำไส้ร่วมด้วยคล้ายกับไวรัสเมอร์ส (MERS) เนื่องด้วยหลายประเทศทั่วโลกได้ตรวจพบโอมิครอน JN.1 ในน้ำเสียที่ปนเปื้อนอุจจาระและปัสสาวะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
การศึกษาในอดีตพบว่าไวรัสเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome, MERS) ซึ่งเป็นไวรัสโคโรนาตระกูลหนึ่ง จะมีจุดเด่นในด้านการติดเชื้อที่เซลล์เยื่อบุระบบทางเดินอาหารเป็นการเฉพาะ การกลายพันธุ์บางตำแหน่งบนจีโนมของโอมิครอน JN.1 ที่ไปคล้ายกับไวรัสเมอร์ส (MERS) จึงอาจทําให้เอื้อต่อการติดเชื้อในเซลล์เยื่อบุลำไส้เพิ่มขึ้น
ข้อมูลดังกล่าวได้บ่งชี้ว่าโอมิครอน JN.1 นั้นมีการกลายพันธุ์เพื่อหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันในบริเวณเซลล์เยื่อบุปอด อันสืบเนื่องมาจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อโควิดตามธรรมชาติ โดยจะไปเพิ่มจำนวนในบริเวณเซลล์เยื่อบุลำไส้แทน การที่ไวรัสโอมิครอน JN.1 เปลี่ยนแปลงเซลล์เป้าหมาย (Viral Tropism) จากเซลล์เยื่อบุปอดมาเป็นเซลล์เยื่อบุลำไส้ คาดว่าจะช่วยให้ไวรัสไม่ถูกจับและทำลายจากแอนติบอดีในปอด โดยอาจส่งผลกระทบต่อการเกิดโรคและการแพร่กระจายของเชื้อในอนาคตได้
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากโอมิครอน JN.1 สามารถติดเชื้อในเซลล์เยื่อบุลำไส้จะมีดังนี้
- มีอาการในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ท้องร่วง คลื่นไส้ และอาเจียน อาการเหล่านี้อาจพบได้บ่อยหรือรุนแรงกว่า เมื่อเทียบกับโอมิครอนสายพันธุ์อื่นๆ
- ความเสี่ยงแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น หากโอมิครอน JN.1 สามารถพบได้มากในลำไส้ ก็จะแพร่เชื้อทางอุจจาระได้ จึงอาจส่งผลให้แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้น
- โรคที่รุนแรงมากขึ้น ในบางกรณี ไวรัสที่สามารถติดเชื้อในลำไส้อาจทำให้เกิดโรคที่รุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากลำไส้เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีเซลล์ภูมิคุ้มกันจำนวนมาก ซึ่งจะตกเป็นเป้าหมายของไวรัสให้เข้าไปทำลายได้
สำหรับปัญหาโควิดโจมตีระบบลำไส้ เอินเวย์ได้เลือกตำรับสมุนไพรจีนฮั่วเซียงเจิ้งชี่ ซึ่งเป็นตำรับยาเก่าแก่กว่า 1,200 ปี และได้รับการบรรจุอยู่ในกรอบแนวทางการรักษาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารของประเทศจีนมายาวนาน
ตำรับสมุนไพรจีนฮั่วเซียงเจิ้งชี่จะรักษาการติดเชื้อในทางเดินอาหารและทางเดินหายใจจากต้นเหตุ โดยตัวยาจะมุ่งเข้าสู่เส้นลมปราณปอด ม้าม และกระเพาะอาหาร เพื่อช่วยขับพิษร้อนชื้นออกจากร่างกาย ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ปรับสมดุลม้ามและทางเดินอาหาร และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและประสิทธิภาพการทำงานของทางเดินอาหารให้ดีขึ้น
ป้องกันไว้ย่อมดีกว่าแก้ แก้เร็วย่อมปลอดภัยกว่า เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารเพื่อสู้ภัยโควิด ไม่ว่าเชื้อไวรัสจะเปลี่ยนไปกี่สายพันธุ์ เอินเวย์ก็พร้อมเคียงข้างคุณเสมอ หากท่านใดต้องการคำปรึกษาก็สามารถติดต่อแพทย์จีนและผู้เชี่ยวชาญจากเอินเวย์ได้ที่เบอร์ 02-751-4399 หรือไอดีไลน์ @enwei