อาหารที่เรากินแม้มักถูกว่าไม่ได้เป็นปัจจัยหลักสำหรับการรักษาโรคกระดูกคอเสื่อม แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่าผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมนั้นควรกินอะไรถึงจะส่งผลดีต่อโรค ทางเอินเวย์ก็ได้นำข้อมูลมาให้ชมกันในบทความนี้แล้วค่ะ
หลักโภชนบำบัดในผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อม
เป้าหมายของโภชนบำบัดในผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมหลักๆ แล้วก็จะมีดังนี้
- ส่งเสริมการบรรเทาอาการและช่วยชะลอไม่ให้พัฒนาไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้น
- ดูแลสุขภาพกระดูกและข้อรวมถึงสุขภาพในด้านอื่นๆ ที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับโรคกระดูกคอเสื่อม
- ส่งเสริมการฟื้นฟูในผู้ที่ต้องรับการรักษาด้วยการผ่าตัด
กระดูกคอเสื่อมกินอะไรดี
แนวทางการกินที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมก็จะประกอบไปด้วย
1. อาหารต้านอักเสบ
เนื่องด้วยความเสื่อมของกระดูกและข้อจะมีเรื่องของการอักเสบเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งการอักเสบเฉพาะจุดและการอักเสบแฝงที่ส่งผลต่อทั้งร่างกาย แนวทางการกินที่ช่วยต้านการอักเสบจึงอาจมีผลดีต่อผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมทั้งในแง่ของการบรรเทาอาการและการชะลอไม่ให้พัฒนาไปสู่อาการรุนแรงได้ ซึ่งก็ได้แก่
- เลี่ยงหรือจำกัดอาหารที่ส่งเสริมให้เกิดการอักเสบ เช่น ข้าวแป้งขัดสี เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล อาหารที่มีน้ำตาลสูง เนื้อแดง เนื้อแปรรูป ฯลฯ
- เน้นกินอาหารที่ช่วยต้านการอักเสบเพิ่มขึ้น เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวแป้งขัดสีน้อย ถั่ว ธัญพืช ปลาที่อุดมโอเมก้า 3 ชา กาแฟ ฯลฯ
นอกจากประเด็นในด้านกระดูกและข้อแล้ว งานวิจัยปัจจุบันก็ยังพบประโยชน์อื่นๆ ของอาหารต้านอักเสบด้วยเช่นกัน เช่น ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด เป็นต้น แนวทางการกินดังกล่าวนี้จึงควรได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง แม้ในผู้ที่ได้รับการรักษาจนดีขึ้นแล้วก็ตาม
2. อาหารบำรุงกระดูกและข้อ
แม้จะไม่ได้ส่งผลดีต่ออาการของโรคกระดูกคอเสื่อมในระยะสั้นโดยตรง แต่การดูแลบำรุงกระดูกและข้อเพื่อให้ห่างไกลจากโรคกระดูกพรุนก็เป็นสิ่งที่ควรให้ความใส่ใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อนจนทำให้มีอาการและคุณภาพชีวิตที่แย่ลง สำหรับแนวทางการกินที่แนะนำนั้นก็ได้แก่
- เลี่ยงหรือจำกัดอาหารที่ส่งผลเสียต่อสมดุลแคลเซียม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง (โดยเฉพาะการดื่มในปริมาณมาก) ฯลฯ
- กินอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมให้เพียงพอ เช่น นมวัว โยเกิร์ต ผักใบเขียว ปลาเล็กปลาน้อย ผลิตภัณฑ์อาหารที่เสริมแคลเซียม ฯลฯ
- กินอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินเคให้เพียงพอ เช่น ผักใบเขียว กะหล่ำดอก ตับ ฯลฯ
- กินอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินดีให้เพียงพอ เช่น แซลมอน ซาดีน ทูน่า ผลิตภัณฑ์อาหารที่เสริมวิตามินดี ฯลฯ (เราสามารถสร้างวิตามินดีจากการสัมผัสแสงแดดได้ด้วยเช่นกัน โดยจะแนะนำเป็นแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าหรือเย็นประมาณวันละ 15 นาที)
3. อาหารควบคุมน้ำหนัก
ข้อมูลงานวิจัยปัจจุบันพบว่า ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์อาจเสี่ยงเกิดอาการปวดคอบ่าไหล่เรื้อรังเพิ่มขึ้น ซึ่งก็คาดว่าเป็นผลมาจากการที่กระดูกสันหลังต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติ (กระดูกคอถือเป็นส่วนหนึ่งของกระดูกสันหลัง) และการอักเสบแฝงภายในร่างกายที่เพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุนี้ แนวทางการกินที่ช่วยลดน้ำหนักจึงอาจมีผลดีในระยะยาวต่อผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ ตัวอย่างเช่น
- เลี่ยงหรือจำกัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชากาแฟใส่น้ำตาล นมเปรี้ยว นมรสหวาน ฯลฯ
- เลี่ยงหรือจำกัดอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น อาหารทอด อาหารมัน อาหารหวาน อาหารจำพวกแป้งขัดขาว ฯลฯ
- เน้นกินอาหารที่อุดมสารอาหารและดีต่อระบบเผาผลาญเพิ่มขึ้น เช่น ผัก ผลไม้น้ำตาลต่ำ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ ถั่ว ธัญพืช ข้าวแป้งขัดสีน้อย ฯลฯ
นอกจากอาหารการกินแล้ว ปัจจัยอื่นๆ อย่างเช่น การหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การใส่ใจจัดการความเครียด การพักผ่อนให้เพียงพอ ฯลฯ ก็สามารถมีผลดีต่อการลดน้ำหนักได้ด้วยเช่นกัน
4. อาหารเพื่อการฟื้นฟู
สำหรับผู้ป่วยโรคกระดูกคอเสื่อมที่ต้องรักษาด้วยวิธีผ่าตัด การใส่ใจดูแลอาหารการกินให้เหมาะสมก็จะมีความสำคัญต่อการพักฟื้น ซึ่งก็จะมีแนวทางที่แนะนำดังนี้
- ดูแลให้ได้รับพลังงานและโปรตีนอย่างเพียงพอ
- ดูแลให้ได้รับวิตามินซีและสังกะสีอย่างเพียงพอ เนื่องจากเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูของแผล
- ตัวอย่างอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง กีวี สตรอเบอร์รี่ มะขามป้อม บร็อคโคลี่ ฯลฯ
- ตัวอย่างอาหารที่มีสังกะสีสูง เช่น เนื้อสัตว์ หอยนางรม ถั่วลิสง แอลมอนด์ ไข่ไก่ ฯลฯ
5. อาหารที่เหมาะสมกับยาและโรคประจำตัว
การดูแลอาหารการกินให้เหมาะสมกับยาที่ใช้และโรคประจำตัวต่างๆ ที่เป็นอยู่ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อป้องกันไม่ให้สุขภาพและคุณภาพชีวิตโดยรวมแย่ลงกว่าเดิม และป้องกันผลกระทบทางอ้อมที่อาจเกิดกับข้อและกระดูก
ตัวอย่างเช่นโรคเบาหวาน ที่อาจเอื้อให้เกิดการอักเสบแฝงภายในร่างกายรวมถึงภาวะแทรกซ้อนอันตรายต่างๆ ได้ หากไม่ได้รับการดูแลควบคุมน้ำตาลในเลือดอย่างเหมาะสม (การอักเสบแฝงภายในร่างกายอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลเสียต่อกระดูกและข้อ)
ยาสมุนไพรจีนกับโรคกระดูกคอเสื่อม
นอกจากอาหารการกินโดยทั่วไปแล้ว ยาสมุนไพรสกัดในทางการแพทย์จีนก็เป็นอีกหนทางหนึ่งที่สามารถช่วยดูแลบำบัดโรคกระดูกคอเสื่อมได้ โดยตำรับยาที่นิยมใช้ก็จะมีหลักการออกฤทธิ์ดังนี้
- ทะลวงเส้นเลือดและเส้นลมปราณบริเวณคอ บ่า ไหล่ ให้โล่งสะอาด
- สลายภาวะเลือดคั่ง ช่วยให้เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ และกระดูกคอ ได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ
- ขจัดพิษลม พิษเย็น และพิษชื้น ที่สะสมอยู่ตามบริเวณคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นต้นเหตุสำคัญของอาการปวดเมื่อยต้นคอ บ่า ไหล่ และท้ายทอย
- ผลักดันการไหลเวียนของเลือด ช่วยให้เลือดขึ้นไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น อาการเวียนหัวปวดหัวจึงทุเลาลง
- เสริมสร้างพลังลมปราณเพื่อลดภาวะเส้นลมปราณติดขัด
ท่านที่สนใจดูแลปัญหากระดูกคอเสื่อมตามทัศนะการแพทย์จีน ก็สามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากเอินเวย์ได้โดยตรงที่เบอร์ 02-751-4399 หรือไอดีไลน์ @enwei
จบแล้วกับประเด็นคำถามที่ว่า เป็นโรคกระดูกคอเสื่อมกินอะไรดี พร้อมด้วยข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทางเอินเวย์หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านนะคะ
เอินเวย์ ศูนย์รวมยาสมุนไพรจีนระดับพรีเมี่ยมจากประเทศจีน ซึ่งอยู่เคียงข้างสังคมไทยมานานกว่า 30 ปี ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกธรรมชาติในการดูแลสุขภาพตามศาสตร์การแพทย์จีน เพื่อให้ทุกท่านได้มีสุขภาพที่ดี