วิตามินซีเป็นอาหารเสริมยอดฮิตที่มีสรรพคุณเด่นในด้านการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ด้วยความโดดเด่นนี่เอง ผู้ที่มีภาวะเลือดจางหลายคนที่ต้องการดูแลสุขภาพเพิ่มเติม จึงมักจะมีข้อสงสัยว่าตนสามารถกินวิตามินซีได้ไหม จะมีผลดีและผลเสียอย่างไรบ้าง ในบทความนี้ ทางเอินเวย์ก็ขออาสานำข้อมูลมาให้ชมกันแบบชัดๆ เองค่ะ
ภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนภายในเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจน การขาดธาตุเหล็กจึงส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้อย่างเพียงพอและเกิดภาวะเลือดจางในที่สุด
สำหรับผู้ที่มีภาวะเลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก การได้รับวิตามินซีพร้อมมื้ออาหารจะมีผลดีต่อโรค เนื่องด้วยวิตามินซีนั้นจะช่วยเปลี่ยนธาตุเหล็กที่อยู่ในอาหารจำพวกพืชให้ถูกดูดซึมได้ดีขึ้น (โดยทั่วไปแล้ว ธาตุเหล็กในอาหารจำพวกพืชจะถูกดูดซึมได้ไม่ดี ต่างจากธาตุเหล็กที่อยู่ในเนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์ ซึ่งจะถูกดูดซึมได้ดีกว่า)
เทคนิคการกินนี้จะยิ่งมีประโยชน์เด่นชัดในผู้ที่มีข้อจำกัดด้านการกินเนื้อสัตว์และเครื่องในสัตว์ ซึ่งถือเป็นแหล่งของธาตุเหล็กที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ และถ้าจะให้ดี ก็ควรพยายามเน้นกินวิตามินซีร่วมกับอาหารจากพืชที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วดำ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ผักโขม คะน้า ตำลึง ฯลฯ
ทั้งนี้ การกินวิตามินซีเพื่อเสริมการดูดซึมธาตุเหล็กอาจไม่จำเป็นต้องเป็นวิตามินซีจากอาหารเสริม แต่สามารถใช้วิตามินซีจากอาหารทั่วไปได้ด้วย ตัวอย่างอาหารที่เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินซีก็อย่างเช่น ส้ม ส้มโอ ฝรั่ง มะละกอ กีวี สตรอเบอร์รี่ มะเขือเทศ บร็อคโคลี่ ฯลฯ
ภาวะเลือดจางจากโรคและความผิดปกติอื่นๆ
ในกรณีของผู้ที่มีภาวะเลือดจางจากโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากร่างกายสร้างฮีโมโกลบินได้น้อย ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้นและเปราะแตกง่าย ก็มีงานวิจัยบางชิ้นบ่งชี้ว่า การเสริมวิตามินซีอาจมีผลดีในการช่วยลดอนุมูลอิสระ และช่วยลดผลกระทบจากธาตุเหล็กส่วนเกินภายในร่างกาย
ส่วนในกรณีของผู้ที่มีภาวะเลือดจางจากโรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่เกิดจากการสร้างฮีโมโกลบินที่ผิดปกติ ส่งผลให้เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างคล้ายเคียว มีลักษณะแข็งและเหนียว ทั้งยังมีอายุสั้นและเปราะแตกง่าย ข้อมูลงานวิจัยปัจจุบันก็พบว่าการเสริมวิตามินซีอาจมีผลดีในแง่ของการช่วยต้านอนุมูลอิสระ แต่ในทางกลับกันก็อาจเอื้อให้เกิดการแตกสลายของเม็ดเลือดแดงมากขึ้น
ด้วยความคลุมเคลือของงานวิจัยที่มีในปัจจุบัน ประกอบกับเงื่อนไขด้านสุขภาพที่ต่างกันจากแต่ละโรค ทางที่ดี ผู้ที่มีภาวะเลือดจางที่เกิดจากโรคและความผิดปกติอื่นๆ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนจะตัดสินใจใช้วิตามินซีเสริม โดยเฉพาะสำหรับการใช้ในปริมาณสูงๆ
จบแล้วกับประเด็นคำถามที่ว่า มีภาวะเลือดจางกินวิตามินซีได้ไหม ทางเอินเวย์หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกท่านนะคะ
เอินเวย์ ศูนย์รวมยาสมุนไพรจีนระดับพรีเมี่ยมจากประเทศจีน ซึ่งอยู่เคียงข้างสังคมไทยมานานกว่า 30 ปี ขอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกธรรมชาติในการดูแลสุขภาพตามศาสตร์การแพทย์จีน เพื่อให้ทุกท่านได้มีสุขภาพที่ดี